รางวัลเกียรติยศสำหรับเอสเอ็มอีไทย

 

ภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี นับเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลังกรณ์มหาวิทยาลัย และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จึงต้องการเห็นภาคธุรกิจนี้มีความเข้มแข็ง แต่ในปัจจุบัน เอสเอ็มอีไทยต้องเผชิญกับสภาวะการแข่งขัน และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ท้าทาย ดังนั้น การสร้างความแตกต่างทางธุรกิจ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ เอสเอ็มอีไทยแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในระยะยาว จึงจัดตั้งโครงการ Bai Po Business Awards by Sasin ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2550 เพื่อยกย่องผู้ประกอบการที่สามารถสร้างความแตกต่างในมิติทางธุรกิจอย่างโดดเด่น และมีพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ  ไม่ย่อท้อยอมแพ้ต่ออุปสรรค และสามารถดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยม ปฏิบัติดีต่อพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ตลอดจนสังคม ซึ่งนำไปสู่การสร้างความยั่งยืน

ทั้งนี้ ชื่อรางวัล “Bai Po Business Awards by Sasin” มีที่มาจากตราสัญลักษณ์ของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ ฯ และธนาคารไทยพาณิชย์ โดยรางวัลนี้ตั้งขึ้นมาไม่ใช่เพื่อการประกวดแข่งขัน แต่ต้องการให้รางวัลนี้เป็นการยกย่อง สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ให้มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจในมิติต่าง ๆ ไปสู่ความสำเร็จ

ข่าว และ กิจกรรม

คำถามที่พบบ่อย

ลูกค้าได้ส่งใบสมัคร และข้อมูลบริษัทให้กับศศินทร์ครบถ้วนแล้ว แต่ไม่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลในครั้งแรก บริษัทของลูกค้าจะมีโอกาสได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลในรอบต่อๆ ไปอีกหรือไม่ ?

กรณีที่บริษัทไม่ได้มีรายชื่อยู่ในผู้ได้รับรางวัลในครั้งแรกนั้น ไม่ได้หมายความว่าบริษัทหมดโอกาสแล้ว แต่ยังมีโอกาสได้รับรางวัลในครั้งต่อๆไป เนื่องจากข้อมูลของบริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะทำงานของโครงการ โดยบริษัทสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่คณะทำงานของโครงการฯ โทรศัพท์ 0-2218-4001-9 ต่อ 181 – 182 ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น. วันจันทร์ – ศุกร์

ลูกค้าได้ส่งใบสมัคร และข้อมูลบริษัทให้กับศศินทร์ครบถ้วนแล้ว แต่ไม่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลในครั้งแรก บริษัทจะต้องทำการยื่นใบสมัครอีกครั้งได้หรือไม่ ถ้าต้องการได้รับรางวัลในครั้งต่อไป?

บริษัทไม่จำเป็นต้องยื่นใบสมัครเข้ามาใหม่ครับ แต่ถ้าหากมีข้อมูลที่แสดงความโดดเด่นของบริษัทเพิ่มเติม ที่จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณา ก็สามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัท มายังโครงการฯ เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาเพิ่มเติมได้ โดยสามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมทั้งในรูปแบบ เอกสาร, สื่อมีเดีย เช่น ซีดี, วีซีดี, ดีวีดี มาได้ที่  โครงการ Bai Po Business Awards by Sasin  อาคารศศปาฐศาลา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ ถนนพญาไท ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330  โทรศัพท์ 02-2184001-9 ต่อ 181 – 182 โทรสาร 02-611-8955  อีเมล์ baipo@sasin.edu

รางวัล Bai Po Business Awards by Sasin จะประกาศผลครั้งต่อไป เมื่อไร

รางวัลนี้จะไม่จำกัดจำนวนผู้ได้รับรางวัลในแต่ละปี และไม่ได้เป็นรางวัลประจำปี การประกาศจะทำอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม แต่ไม่กำหนดระยะเวลาชัดเจน ใน 1 ปีอาจมีการประกาศครั้งเดียว 2 ครั้ง หรือหลายครั้งก็ได้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจะพิจารณา ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ไม่มีส่วนร่วมในการพิจารณาแต่อย่างใด (และผู้สมัคร / ผู้ได้รับการเสนอชื่อ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้บริการใดๆ ของธนาคารไทยพาณิชย์)

ถ้ามียอดขายอยู่ที่ประมาณ 90 กว่าล้านบาท จะสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่

กิจการสามารถส่งใบสมัคร และเอกสารประกอบเข้ามาก่อนได้ เพื่อให้คณะทำงานโครงการพิจารณา ทั้งนี้การพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่สมัครนั้น ทางคณะทำงานจะดูจากข้อมูลต่างๆ ประกอบกัน

ถ้ากิจการไม่มีกำไรสะสม สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่

กิจการสามารถส่งใบสมัคร และเอกสารประกอบเข้ามาเพื่อให้คณะทำงานพิจารณาก่อนได้ เพราะการที่กิจการไม่มีกำไรสะสม อาจมาจากหลายสาเหตุ

ไม่เคยเข้าร่วมประกวดใดๆ มาก่อนเลย เกรงว่าจะเตรียมเอกสารได้ไม่ถูกต้องสมบูรณ์

กิจการไม่ต้องกังวลเรื่องดังกล่าว กิจการสามารถส่งใบสมัครและเอกสารประกอบมาที่โครงการก่อนได้ ทั้งนี้ ถ้าเอกสารมีสิ่งที่ต้องเพิ่มเติม ทางโครงการจะมีทีมงานโทรประสานกับทางกิจการ และค่อยช่วยเหลือในเรื่องการจัดเตรียมเอกสาร

ถ้ากิจการมีผู้บริหารส่วนหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ จะสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่

ได้ ขอให้กิจการส่งใบสมัคร และเอกสารประกอบเข้ามาเพื่อให้คณะทำงานพิจารณาก่อน

ช่วยยกตัวอย่างของคุณสมบัติของผู้สมัครที่ว่า “มีการคำนึงถึงความเสี่ยงของการดำเนินกิจการ”

อาทิเช่น ถ้ากิจการมีรายได้ 100 ล้านบาท จากคู่ค้ารายเดียวเท่านั้น กิจการก็จะมีความเสี่ยงในการดำเนินกิจการ เนื่องจากถ้าคู่ค้ารายดังกล่าวไม่ต่อสัญญา หรือเปลี่ยนไปซื้อสินค้า หรือบริการจากบริษัทอื่น กิจการก็จะสูญรายได้ 100% เป็นต้น